Knowledge Basics

รู้ให้ลึกก่อนลงทุน! ทำความรู้จักกับ Futures และ Options

“ฟิวเจอร์ส” (Futures) และ “ออปชัน” (Options) คืออนุพันธ์ทางการเงินที่นักลงทุนนิยมใช้เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด“ฟิวเจอร์ส” (Futures) และ “ออปชัน” (Options) คืออนุพันธ์ทางการเงินที่นักลงทุนนิยมใช้เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด

“ฟิวเจอร์ส” (Futures) และ “ออปชัน” (Options) คืออนุพันธ์ทางการเงินที่นักลงทุนนิยมใช้เพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด 

ฟิวเจอร์ส (Futures)

ฟิวเจอร์ส (Futures) คือสัญญาที่ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงในการซื้อหรือขายทรัพย์สินทางการเงินโดยระบุราคากันล่วงหน้า แต่จะทำการซื้อขายและชำระเงินในอนาคต ผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่จำเป็นต้องถือสัญญาไว้จนครบกำหนด สามารถทำการซื้อขายกันได้ระหว่างที่ถือสัญญา แต่หากถือไว้จนครบกำหนดผู้ซื้อและผู้ขายต้องทำการซื้อขายกันตามที่ตกลงในสัญญา

ลักษณะที่สำคัญของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures)

-ผู้ที่เข้าร่วมสัญญา Futures จะต้องปฏิบัติตามสัญญา ซื้อหรือขายทรัพย์สินในราคาที่ถูกต้องในวันที่ระบุล่วงหน้า

-สัญญา Futures มักถูกใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาของทรัพย์สิน ผู้ซื้อและผู้ขายสัญญา Futures สามารถใช้สัญญานี้เพื่อล็อคราคาในระดับที่ต้องการ

-ผู้ซื้อสัญญาจะมีสถานะซื้อ (Long Position)

-ผู้ขายสัญญา จะมีสถานะขาย (Short Position)

ประโยชน์ของ Futures

-Futures จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาของทรัพย์สิน

-Futures สามารถใช้ในการเข้ามาเก็งกำไรได้ ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง สามารถทำการเปิด Long Position ในตลาด Futures ถ้าคาดว่าราคาจะขึ้น หรือ เปิด Short Positionถ้าคาดว่าราคาจะลง

-ในตลาด Future เทรดเดอร์สามารถขายก่อนได้หากคาดว่าราคาจะลง 

-ตลาด Futures จะใช้เงินลงทุนที่น้อย เพราะใช้หลักการวางเงินประกัน หรือที่เรียกว่า Margin โดยส่วนใหญ่ ไม่เกิน 10 % ของมูลค่าสัญญา

ออปชัน (Options)

ออปชัน (Options) คือสัญญาทางการเงินที่ให้ผู้ถือสัญญาสิทธิแก่ผู้ถือ (Options Holder) ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงด้วยราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าภายในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เทรดเดอร์สามารถเป็นได้ทั้ง “ผู้ซื้อ (Long) และ “ผู้ขาย (Short)” แต่ผู้ซื้อต้องจ่ายค่าพรีเมียม (Premium) เพื่อจองสิทธิ ณ ราคานั้น ๆ

ออปชันมีสองประเภทหลัก:

-สิทธิในการซื้อ (Call Option): สิทธิในการซื้อสินทรัพย์ที่อ้างอิงในสัดส่วนที่กำหนด ผู้ซื้อสามารถเลือกว่าจะใช้สิทธิหรือไม่

-สิทธิในการขาย (Put Option): สิทธิในการขายสินทรัพย์ที่อ้างอิงในสัดส่วนที่กำหนด ผู้ซื้อสามารถเลือกว่าจะใช้สิทธิหรือไม่

-สิทธิในการซื้อจะใช้เมื่อผู้ถือสัญญาเชื่อว่าราคาทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นในอนาคต และสิทธิในการขายจะใช้เมื่อผู้ถือสัญญาเชื่อว่าราคาทรัพย์สินจะลดลงในอนาคต

ประโยชน์ของ Option

-ใช้เงินลงทุนน้อย สามารถเทรดได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง

-เทรดเดอร์สามารถเป็นได้ทั้ง “ผู้ซื้อ” และ “ผู้ขาย”

-เทรดเดอร์ออปชันจะสามารถจำกัดการขาดทุนที่เทรดเดอร์สามารถรับได้ในจำนวนที่แน่นอน นอกจากนี้เทรดเดอร์ยังสามารถทำกำไรจากออปชันได้อย่างไม่จำกัด เพราะผู้ที่มีสถานะซื้อในออปชัน จะมีสิทธิที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์นั้นๆ ณ วันที่ออปชันหมดอายุ 

-ป้องกันความเสี่ยงได้ดี เนื่องจากเทรดเดอร์สามารถจำกัดการขาดทุนได้เมื่อเปิด Long Position

สรุป Futures กับ Option ต่างกันอย่างไร?

-ต่างในข้อกำหนด

Futures คือ สัญญาที่ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงจะซื้อขายสินค้า ทั้งคู่มีภาระผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาคือ ส่งมอบหรือชำระส่วนต่างราคาในวันที่ครบกำหนด

Options จะไม่มีภาระผูกพัน จะเป็นสัญญาที่ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อที่จะซื้อหรือขายสินค้าตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้ซื้อสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ 

-การใช้งาน

Futures มักถูกใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทรัพย์สิน

Options มักถูกใช้เพื่อล็อคราคาทรัพย์สินในระดับที่ถูกต้อง

-ผู้ถือสัญญา

Futures ทั้งสองฝ่ายที่มีสิทธิในการซื้อและขายตามสัญญา ไม่มีผู้ถือสัญญา

Options มีผู้ถือสัญญาที่มีสิทธิในการใช้สิทธิ และผู้ขายสัญญาที่มีความผูกมัดในการปฏิบัติตามสัญญา

-ต่างกันในระยะเวลา

Futures จะส่งมอบตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา 

Options จะดำเนินการเมื่อใดก็ได้ก่อนวันหมดอายุของวันที่ตกลงกัน

-เงินประกัน

Futures ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต้องวางเงินประกัน (margin) ส่วนหนึ่งไว้กับโบรกเกอร์ 

Options ผู้ซื้อจ่ายค่าพรีเมี่ยมเพื่อซื้อออปชั่น ไม่ต้องวางเงินประกัน เนื่องจากผลขาดทุนของผู้ซื้อจำกัดอยู่เท่ากับค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไปแล้วเท่านั้น 

-การชำระเงินล่วงหน้า

Futures ไม่มีการชำระเงินล่วงหน้า 

Options มีการจ่ายเงินล่วงหน้าที่เรียกว่า การจ่ายพรีเมียม (Premium)

อย่างไรก็ตามไม่ว่าการลงทุนแบบใดล้วนมาพร้อมกับความเสี่ยง เทรดเดอร์ทุกท่านควรทำความเข้าใจถึงรูปแบบการลงทุนต่าง ๆ เพื่อการลงทุนที่ถูกต้องและปลอดภัย 

*การซื้อขายและลงทุนใน Forex และ CFD มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียมากกว่าเงินทุนทั้งหมด

thailand

Recent Posts

Notification of Change in the Leverage of US Shares

Dear Valued Clients, Please be advised that the leverage on all US Share CFDs products…

2 days ago

แจ้งเตือนการโรลโอเวอร์ประจำเดือนเมษายน

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ซื้อขาย CFD ต่อไปนี้จะโรลโอเวอร์อัตโนมัติตามวันที่ระบุไว้ในตารางด้านล่างนี้ เนื่องจากอาจมีความแตกต่างของราคาระหว่างสัญญาเก่าและใหม่ จึงขอแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบและจัดการโพสิชันของคุณตามความเหมาะสม วันหมดอายุ:  สัญลักษณ์ คำอธิบาย วันที่ VIX Volatility 2025-04-11 FRA40ft France 40 Index…

7 days ago

STARTRADER APAC SUMMIT 2025: ฉลองความสำเร็จ ก้าวสู่อนาคต

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 25 มีนาคม 2025 STARTRADER เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมและเครือข่ายระดับโลก กับงาน APAC Summit 2025 ที่ทุกคนรอคอย ภายใต้ธีมอันทรงพลัง…

2 weeks ago

ประกาศเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายประจำเดือนเมษายน

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ โปรดตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วโมงซื้อขายของผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้ตามวันหยุดประจำเดือนเมษายน โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: วันที่ 7 เมษายน 2025 (วันจันทร์) 10 เมษายน 2025 (วันพฤหัส) 17 เมษายน 2025…

2 weeks ago

ประกาศปรับเวลาซื้อขายตามเวลาออมแสงของออสเตรเลีย

เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ขอเรียนให้ทราบว่าชั่วโมงการซื้อขายของผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาออมแสงของออสเตรเลียในวันที่ 6 เมษายน 2024 โปรดดูตารางด้านล่างสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง: สัญลักษณ์เวลาซื้อขายSPI200จันทร์-ศุกร์: 01:00-09:30, 10:10-24:00 * เวลาทั้งหมดที่ระบุไว้คือ GMT+3 (เวลาเซิร์ฟเวอร์ใน MT4 และ MT5)…

2 weeks ago

ทำความรู้จักกับกลยุทธ์การเทรด Breakout เทคนิควิเคราะห์กราฟที่นักเทรดต้องรู้

Breakout ในโลกของการเทรดคือการเคลื่อนไหวของราคาที่ทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่อาจส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และอาจนำไปสู่ความผันผวนของราคาที่รุนแรงขึ้น Breakout ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ เนื่องจากอาจบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ หากราคาทะลุแนวต้าน อาจเป็นสัญญาณของขาขึ้น (Uptrend) แต่หากราคาหลุดแนวรับ อาจเป็นสัญญาณของขาลง (Downtrend) อย่างไรก็ตาม การเทรดแบบ…

2 weeks ago